ร้าน Atsuta Horaiken ข้าวหน้าปลาไหลในตำนาน
ที่นาโกย่า... แน่นอนค่ะ เราต้องไม่พลาดอะไรที่เป็นตำนานแน่ๆ
แต่ก่อนอื่นขอพูดถึง ความสำคัญของ เมนูข้าวหน้าปลาไหลสักนิดก่อนค่ะ
ข้าวหน้าปลาไหล (ญี่ปุ่น: 蒲焼 โรมาจิ: kabayaki ทับศัพท์: คาบายากิ)
เป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่มีการใช้เนื้อปลา โดยเฉพาะปลาไหล ปลาไหลญี่ปุ่นมี 2 ชนิด โดยส่วยใหญ่จะใช้ อุนะงิ
ซึ่งตัวปลาจะถูกผ่าแยกออกเป็นแนวยาวจากด้านบน(หลัง)หรือส่วนท้องจนถึงปลายหาง จากนั้นก็เอาเครื่องในและเลาะก้างออก
หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นรูปสีเหลี่ยม เสียบด้วยไม้ และนำไปจุ่มกับซอสสุดพิเศษ เดี๋ยวนี้หาซื้อซอสปลาไหลได้ทั่วไป
ก่อนที่จะนำไปย่างบนเหล็กปิ้งย่างหรือตะแกรงเหล็กย่าง
จุไฮไลท์ของร้านนี้ซอสหม้อนนี้มีอายุมากกว่าพลอยถึง 3 เท่า
เรากำลังจะพาทุกคนย้อนอดีตไปไกลถึงยุคสมัย...(สมัยไหนอ่า) ไม่แน่ใจเรื่องประวัตฺศาสตร์เลยค่ะ
แต่ก็ไปกันเลยค่ะ
แน่นอนว่ารสชาติ คง...สุดๆ เพราะถ้าไม่อร่อยจริงอยู่มาถึงทุกวันนี้ไม่ได้แน่ๆ
เอาล่ะค่ะ เราวางแผนการเดินทางไปที่ร้าน เรามาอยู่ที่น่าโกย่า ถึงแม้ที่พักจะมาสาขาที่อยู่ใกล้กว่า เราก็จะต้องไปสาขา
รับบัตรคิวกันเลยค่ะ มีรอบเข้าเป็นรอบๆ
ความตั้งใจคือ ไปเย็นๆ ละกันค่ะ (เพราะคิดว่าคนน่าจะเริ่มน้อยลงมาก) ไปถึงก็ยังไม่ไปต่อคิวนะค่ะ แวะไปศาลเจ้าอัตสึตะ ก่อน (ไหนๆ ก็มาแล้ว)
เมื่อพระอาทิตยกำลังลับขอบฟ้า "โอเค ได้เวลาละ" พอไปถึงเป็นไปตามคาดเลยค่ะ
แต่ที่น่าสนใจคือ คนที่ต่อคิวส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เป็นการยืนยันถึงมาตรฐานความอร่อย แน่ๆ
ถึงเวลาเเห่งการรอคอย คิวของเราก็มาถึง เดินเข้าไปในร้าน บรรยากาศคือ มาบ้านเพื่อนญี่ปุ่นชัดๆ บรรยากาศเป็นกันเองแต่เงียบมาก
ถ้าเทียบความหนาแน่นของประชากรคงไม่แพ้รถไฟฟ้าบ้านเราแต่เหมือนไม่มีคนเลย เพราะทุกคนพูดค่อนข้างเบา
แต่ที่ทำให้เซอไพรส์หนักคือ คิวๆๆๆๆๆ ให้ตายเถอะ!!! นึกว่าจะได้กินแล้ว นี่มันหลอกลวงชัดๆ (เข้าใจเอาเองว่าโดนหลอก เขาไม่ได้หลอกหรอก เอาจริงๆ)
แต่ก็รอไม่นานเลยสำหรับการรอคอยในนี้ ไม่ถึง 10 นาที ก็ได้ทานสมใจ
เราไป 2 คน สั้งชุดเดียวแบ่งกันทาน เพราะมันเยอะมากและเราก็ทานอะไรมาบ้างแล้ว...
เราเลยมาแค่อยากมาลอง รสชาติความเป็นต้นตำรับเท่านั้นค่ะ
ในที่สุด ก็ก็เข้าใจว่า "ออริจินัล" เป็นยังไง ที่เขาเล่าขานกันมายาวนาน
(สมกับคำล่ำลือจริงๆ ค่ะ)
"เซตเดียว อิ่มถึงพรุ่งนี้เลยล่ะ" ฮ่าๆๆ..
การกินมีแบ่งเป็น 4 ส่วน แต่มีวิธีทาน 3 แบบ
แบบแรก คือ การกินข้าวหน้าปลาไหลแบบสัมผัสรสของข้าวหน้าปลาไหลและซอสอย่างแท้จริง
โดยตักออกมาหนึ่งส่วนใส่ในถ้วยที่ทางร้านจัดมาให้ แล้วกินได้เลยแบบไม่ต้องใส่เครื่องเคียงใด ๆ
แบบที่สอง ตักข้าวอีกส่วนใส่ถ้วย จากนั้นนำวาซาบิ ต้นหอมซอย และสาหร่ายแห้งใส่ลงไป คลุกเคล้าเล็กน้อยก่อนกิน จะได้รสเผ็ดร้อน อร่อยๆ แบบนี้อร่อยดีค่ะ
วิธีนี้มาอยู่ด่านสอง ทำให้ปริมาณที่มากพอสามารถทานต่อได้อย่างอร่อยมากขึ้น โดยไม่เลี่ยน
แบบที่สาม เป็นการนำน้ำซุปราดลงบนข้าวส่วนที่สามพอขลุกขลิก แล้วใส่เครื่องเคียงตามแบบที่สอง จะได้รสชาติของข้าวหน้าปลาไหลที่คล้ายกับข้าวต้มที่ฉ่ำไปด้วยน้ำซุป
แบบนี้เหมาะตบท้ายและเอาจริงๆ มันสดชื่นขค้นอีกนิด กลิ่นดีขึ้น กินลื่นมากขึ้น
ส่วนสุดท้ายที่แบ่งไว้ ก็เลือกเอาแบบที่ชอบซ้ำอีกรอบ
นับว่าตบจบด้วยการตอกย้ำความอร่อยซ้ำแบบที่ชอบ เพราะบางคนยอมเสียส่วน 1 ใน 4 ลองแบบอื่นที่ไม่รู้ว่าจะชอบรึเปล่าไป
แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมีส่วนที่ 4 ให้ปิดท้าย
ถือว่าเป็นการทานปลาไหลได้ละเอียดที่สุดในชีวิต
ทำให้เข้าใจถึงความพิถีพิถีนของคนคิด รอบครอบ อะเอียดอ่อน และสมบูรณ์แบบ
คะแนนประสบการณ์ให้เต็มร้อยไปเลยค่ะ
ราคากับปริมาณ มันก็เหมาะสมกันนะค่ะ













ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น