วันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2564

ข้าวหน้าปลาไหล (ญี่ปุ่น: 蒲焼 โรมาจิ: kabayaki ทับศัพท์: คาบายากิ)

เขาว่ากันว่า ร้านนี้ดังมากกกก ที่สุดของข้าวหน้าปลาไหล


ร้าน Atsuta Horaiken ข้าวหน้าปลาไหลในตำนาน
ที่นาโกย่า... แน่นอนค่ะ เราต้องไม่พลาดอะไรที่เป็นตำนานแน่ๆ
รออะไรล่ะคะ...

แต่ก่อนอื่นขอพูดถึง ความสำคัญของ เมนูข้าวหน้าปลาไหลสักนิดก่อนค่ะ
ข้าวหน้าปลาไหล (ญี่ปุ่น: 蒲焼 โรมาจิ: kabayaki ทับศัพท์: คาบายากิ)
เป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่งที่มีการใช้เนื้อปลา โดยเฉพาะปลาไหล ปลาไหลญี่ปุ่นมี 2 ชนิด โดยส่วยใหญ่จะใช้ อุนะงิ
ซึ่งตัวปลาจะถูกผ่าแยกออกเป็นแนวยาวจากด้านบน(หลัง)หรือส่วนท้องจนถึงปลายหาง จากนั้นก็เอาเครื่องในและเลาะก้างออก
หั่นเนื้อปลาเป็นชิ้นรูปสีเหลี่ยม เสียบด้วยไม้ และนำไปจุ่มกับซอสสุดพิเศษ เดี๋ยวนี้หาซื้อซอสปลาไหลได้ทั่วไป
ก่อนที่จะนำไปย่างบนเหล็กปิ้งย่างหรือตะแกรงเหล็กย่าง
จุไฮไลท์ของร้านนี้ซอสหม้อนนี้มีอายุมากกว่าพลอยถึง 3 เท่า



เรากำลังจะพาทุกคนย้อนอดีตไปไกลถึงยุคสมัย...(สมัยไหนอ่า) ไม่แน่ใจเรื่องประวัตฺศาสตร์เลยค่ะ
แต่ก็ไปกันเลยค่ะ
แน่นอนว่ารสชาติ คง...สุดๆ เพราะถ้าไม่อร่อยจริงอยู่มาถึงทุกวันนี้ไม่ได้แน่ๆ
เอาล่ะค่ะ เราวางแผนการเดินทางไปที่ร้าน เรามาอยู่ที่น่าโกย่า ถึงแม้ที่พักจะมาสาขาที่อยู่ใกล้กว่า เราก็จะต้องไปสาขา
#Atsuta #Horaiken Main Restaurant


รับบัตรคิวกันเลยค่ะ มีรอบเข้าเป็นรอบๆ
ความตั้งใจคือ ไปเย็นๆ ละกันค่ะ (เพราะคิดว่าคนน่าจะเริ่มน้อยลงมาก) ไปถึงก็ยังไม่ไปต่อคิวนะค่ะ แวะไปศาลเจ้าอัตสึตะ ก่อน (ไหนๆ ก็มาแล้ว)
เมื่อพระอาทิตยกำลังลับขอบฟ้า "โอเค ได้เวลาละ" พอไปถึงเป็นไปตามคาดเลยค่ะ
แต่ที่น่าสนใจคือ คนที่ต่อคิวส่วนใหญ่เป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เป็นการยืนยันถึงมาตรฐานความอร่อย แน่ๆ
ระบบคิวค่อข้างดี ด้านนอกดูแล้วน่าจะอีก 1- 2 คิวก็ถึงเรา
ใช้เวลาถ่ายรูปเล่น แถวรั่ว สวนญี่ปุ่น (สวยมาก จนอดควักโทรศัพย์มาถ่ายภาพเก็บไว้ไม่ไหว)



"ถ่ายรูปเล่นๆ แปบๆ ก็ถึงคิวเราละค่ะ"





ถึงเวลาเเห่งการรอคอย คิวของเราก็มาถึง เดินเข้าไปในร้าน บรรยากาศคือ มาบ้านเพื่อนญี่ปุ่นชัดๆ บรรยากาศเป็นกันเองแต่เงียบมาก
ถ้าเทียบความหนาแน่นของประชากรคงไม่แพ้รถไฟฟ้าบ้านเราแต่เหมือนไม่มีคนเลย เพราะทุกคนพูดค่อนข้างเบา
แต่ที่ทำให้เซอไพรส์หนักคือ คิวๆๆๆๆๆ ให้ตายเถอะ!!! นึกว่าจะได้กินแล้ว นี่มันหลอกลวงชัดๆ (เข้าใจเอาเองว่าโดนหลอก เขาไม่ได้หลอกหรอก เอาจริงๆ)
แต่ก็รอไม่นานเลยสำหรับการรอคอยในนี้ ไม่ถึง 10 นาที ก็ได้ทานสมใจ
เราไป 2 คน สั้งชุดเดียวแบ่งกันทาน เพราะมันเยอะมากและเราก็ทานอะไรมาบ้างแล้ว...
เราเลยมาแค่อยากมาลอง รสชาติความเป็นต้นตำรับเท่านั้นค่ะ
ในที่สุด ก็ก็เข้าใจว่า "ออริจินัล" เป็นยังไง ที่เขาเล่าขานกันมายาวนาน
(สมกับคำล่ำลือจริงๆ ค่ะ)
"เซตเดียว อิ่มถึงพรุ่งนี้เลยล่ะ" ฮ่าๆๆ..
เซตที่เราเลือกเป็น
combo manu : Hitsu-mabushi เซตนี้จะมีวิธทานมาให้ด้วย วางใจได้


การกินมีแบ่งเป็น 4 ส่วน แต่มีวิธีทาน 3 แบบ
แบบแรก คือ การกินข้าวหน้าปลาไหลแบบสัมผัสรสของข้าวหน้าปลาไหลและซอสอย่างแท้จริง
โดยตักออกมาหนึ่งส่วนใส่ในถ้วยที่ทางร้านจัดมาให้ แล้วกินได้เลยแบบไม่ต้องใส่เครื่องเคียงใด ๆ
แบบที่สอง ตักข้าวอีกส่วนใส่ถ้วย จากนั้นนำวาซาบิ ต้นหอมซอย และสาหร่ายแห้งใส่ลงไป คลุกเคล้าเล็กน้อยก่อนกิน จะได้รสเผ็ดร้อน อร่อยๆ แบบนี้อร่อยดีค่ะ
วิธีนี้มาอยู่ด่านสอง ทำให้ปริมาณที่มากพอสามารถทานต่อได้อย่างอร่อยมากขึ้น โดยไม่เลี่ยน
แบบที่สาม เป็นการนำน้ำซุปราดลงบนข้าวส่วนที่สามพอขลุกขลิก แล้วใส่เครื่องเคียงตามแบบที่สอง จะได้รสชาติของข้าวหน้าปลาไหลที่คล้ายกับข้าวต้มที่ฉ่ำไปด้วยน้ำซุป
แบบนี้เหมาะตบท้ายและเอาจริงๆ มันสดชื่นขค้นอีกนิด กลิ่นดีขึ้น กินลื่นมากขึ้น
ส่วนสุดท้ายที่แบ่งไว้ ก็เลือกเอาแบบที่ชอบซ้ำอีกรอบ
นับว่าตบจบด้วยการตอกย้ำความอร่อยซ้ำแบบที่ชอบ เพราะบางคนยอมเสียส่วน 1 ใน 4 ลองแบบอื่นที่ไม่รู้ว่าจะชอบรึเปล่าไป
แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะมีส่วนที่ 4 ให้ปิดท้าย
ถือว่าเป็นการทานปลาไหลได้ละเอียดที่สุดในชีวิต
ทำให้เข้าใจถึงความพิถีพิถีนของคนคิด รอบครอบ อะเอียดอ่อน และสมบูรณ์แบบ
คะแนนประสบการณ์ให้เต็มร้อยไปเลยค่ะ

ราคากับปริมาณ มันก็เหมาะสมกันนะค่ะ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร้านข้าวใหม่ปลามัน Amphawa (Kaomai Palmun Restaurant) Amphawa

อีกพิกัดความอร่อยในจังหวัด สมุทรสงคราม ร้าน "ข้าวใหม่ปลามัน"     ร้านอาหารไทย อาหารทะเล รสเด็ดที่ไม่ควรพลาด ถ้าได้ผ่านไปทาง อัมพวา...