"เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ" ด้วยอากาศร้อนแบบนี้คงจะเป็นคำยอดฮิตในช่วงนี้จริง ๆ นอกจากจะเดินทางง่าย รวดเร็ว เที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ได้อีกด้วยล่ะครับ แน่นอนครับ คงจะไม่ใช่การเดินห้างฯ ในกรุงเทพแน่นอน เพราะสถานที่ที่เราจะแนะนำก็คือ "อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน" หลายคนบอกโห แล้วจะเที่ยวยังไงหมด เราคัดสรร ที่ที่น่าสนใจให้มาแนะนำแน่นอนครับ
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่นี่ เราสามารถสัมผัสทะเลหมอก ไม่ผิดครับ ทะเลหมอกจริง ๆ ครับ แถมยังสามารถ้จอกับทะเลหมอกยามเช้าได้เกือบตลอดทั้งปีครับ โดยสามารถสัมผัสทะเลหมอกยามเช้าได้ที่ บนยอดเขาพะเนินทุ่งนั่นเองล่ะครับ และที่นี่ยังได้รับการยกย่องว่า เป็นแหล่งทะเลหมอกที่ดีที่สุดในภาคกลางอีกด้วยล่ะครับยอดเขาพะเนินทุ่ง สูงถึง 1,207 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเลเลยนะครับ (อุทยานฯ แก่งกระจานยังได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ราวัลยอดเยี่ยมประเภทแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประจำปี 2551 อีกด้วยล่ะครับ)
ที่เที่ยวในอุทยานฯ ที่น่าสนใจ (บนเขาพะเนินทุ่ง)
แน่นอนครับ ที่เเรกคงหนีไม่พ้น เขาพะเนินทุ่ง ซึ่งเป็นยอดเขาในเขตประเทศไทยที่สูงที่สุดของอุทยานฯ อยู่ห่างจากที่ทำการอุตทยานฯ ประมาณ 50 กิโลกเมตร เป็นภูเขาสูงแต่มีบริเวณที่เป็นทุ่งหญ้ากว้างในระดับความสูง 960 กิโลเมตรด้วยนะครับ โดยรอบเป็นป่าดิบเขา มีสัตว์ป่าชุกชุม ทิวทัศน์งดงาม จากยอดเขาสามารถเห็นทะเลหมอกได้ในช่วงฤดูฝนต่อฤดูหนาว
การเดินทาง หากใช้รถต้องเป็นรถกำลังสูง สามารถเหมารถปิกอัพได้จากบริเวณที่ทำการอุทยานฯ โดยมีค่าใช้จ่าย ประมาณ 1,400 บาท หากเดินทางจากอุทยานไปยังบ้านกร่าง และ 1,600 บาท หากเดินทางไปยังพะเนินทุ่ง โดยรถเหมาสามารถจุคนได้ถึง 10 คนเลยที่เดียวครับ นับว่าคุ้ม
และเนื่องจากถนนค่อนข้างเเคบ ทางอุทยานฯ จึงกำหนดเวลาการขึ้น-ลง ดังนี้
เวลาขึ้นจากบ้านกร่างไปพะเนินทุ่ง : 05:30 - 07:30 น. และ 13:00 - 15:00 น.
เวลาลงจากพะเนินทุ่งไปบ้านกร่าง : 09:00-10:00 น. และ 16:00-17:00 น.
หากต้องการจะขึ้นเขาพะเนินทุ่งเราต้องติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนะครับ เพื่อขอใบอนุญาตผ่านทาง โดยมีค่าธรรมเนียม ดังนี้
คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 40 บาท
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท
ค่าบริการสำหรับยานพาหนะ ได้แก่
รถจักรยาน ไม่มีค่าบริการ
รถจักรยานยนต์ 20 บาท
รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
รถยนต์ 6 ล้อ 100 บาท
และมากกว่า 6 ล้อขึ้นไป มีค่าบริการ 200 บาท
ค่าบริการจอดอากาศยาน 2,500 บาท
และสำหรับใครที่อยากขึ้นเขาพะเนินทุ่ง เวลา 05:00 น. ต้องขออนุญาตล่วงหน้า 1 วัน นะครับ
ที่เที่ยวที่น่าสนใจแห่งที่สอง นั่นก็คือ น้ำตกทอทิพย์ อยู่ห่างจากเขาพะเนินทุ่ง 15 กิโลเเมตร และสามารถเดินทางโดยรถยนต์และเดินทางเท้าเข้าถึงตัวน้ำตกด้วยระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร น้ำตกสูง 9 ชั้น ชั้นที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดคือชั้นที่ 5 แต่ว่าในแต่ละชั้นก็จะมีความแปลกตา สวยงามแตกต่างกันไปนะครับ โดยรอบมีป่าไม้ร่มรื่น และหากใครอยากเข้าป่าลึกกว่านั้นก็ทำได้นะครับ แต่ควรขอคำแนะนำและคนนำทางจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัย
จุดที่สาม ที่อยากจะแนะนำก็คือ เส้นทางดูนก-ผีเสื้อ จะเริ่มจากกิโลเมตรที่ศูนย์ที่ด่านตรวจเขาสามยอดถึงกิโลเมตรที่ 18 จะพบผีเสื้อได้ตามสองข้างทางหรือตามโป่งดินระหว่างกิโลเมตรที่ 10-12 และจุดที่นักท่องเที่ยวสามารถดูนกได้จะเป็นบริเวณตั้งแต่อ่างเก็บน้ำห้วยสามยอด เลยด่านตรวจมาไม่ไกล ซึ่งที่นั่นเป็นแหล่งที่อยู่ของนกน้ำนานาชนิดเลยครับ และนับตั้งแต่กิโลเมตรที่ 18 ถึง กิโลเมตรที่ 27 ท่านอาจจะพบเห็นนกกระลิงเขียดหางหนาม ซึ่งเป็นนกที่พบในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่เดียวในประเทศไทยเลยนะครับ
เห็นมั้ยล่ะครับว่าไม่ไกลจากเมืองกรุงมากนัก เราก็สามารถสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างร่มรื่น และตื่นตา น่าสนใจเหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวเชิ่งอนุรักษ์ นักผจญภัย และแม้แต่คนที่ไม่เคยเที่ยวแนวนี้มาก่อนก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศดีๆ แบบนี้ได้ไม่ยากเลยล่ะครับ เพราะที่นี่มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือเราตลอด 24 ชั่วโมง
ทางอุทยานฯ ได้มีการกำหนดเส้นทางเดินเที่ยวชมธรรมชาตินอกทางถาวร ดังนี้
1. เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯ เขาพะเนินทุ่ง - ยอดเขาพะเนินทุ่ง (ไป กลับทางเดียวกัน)
2. เส้นทาง กม. 23 - น้ำตกหินลาด - โป่งหมู - ผากล้วยไม้ - เคยูแค้มป์ - กม. 36
3. เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯ เขาพะเนินทุ่ง - บ่ำน้ำร้อน - น้ำตกทอทิพย์ - กม. 36
4. เส้นทาง กม. 23 - น้ำตกปราณบุรี - กม. 18
5. เส้นทางหน่วยพิทักษ์ฯ บ้านกร่าง - เขาปะการัง - ดงมะค่าโมง - โป่งพรม
6. เส้นทาง กม. 18 - ต้นน้ำปราณบุรี - ห้วยคมกฤช - เขาปะการัง - หน่วยพิทักษ์ บ้านกร่าง
7. เส้นทาง กม. 27 - ห้วยแม่สะเลียง - เขากระทิง - กม. 14
และสำหรับคนที่อยากจะเดินเที่ยวชมธรรมชาตินอกเเนวทางถาวรตามที่ได้กำหนดไว้ ก็สามารถทำได้ครับ แต่ต้องยื่นหนังสือขออนุญาต และได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ แก่งกระจานก่อนนะครับ เพื่อความปลอดภัย และให้เจ้าหน้าที่อุทยานนำเที่ยว โดยมีค่าบริการตามระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
การเดินทางมายังอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
การเดินทางโดยรถส่วนตัว ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อ ราชบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี จะถึงสีแยกท่ายาง เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง จากนั้นวิ่งไปตามถนนเลียบตลองชลประมาน ตามทางหวงหมายเลข 3499 ระยะทางประมาณ 90 กิโลเมตร ก็จะถึงอำเภอแก่งกระจาน จากปากทางเข้าอุทยานฯ อีก 4 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานฯ
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง
ใช้บริการรถสายกรุมเทพ- ท่ายาง ลงที่ตลาดท่ายาง จากนั้นต่อรถสองเเถวไปตลาดแก่งกระจาน และต่อรถรับจ้างหรือจักรยานยนต์ไปอีก 4 กิโลเมตรถึงที่ทำการอุทยานฯ โดยรถโดยสารประจำทางที่กรุงเทพฯ มีให้บริการที่ อนุเสาวรีย์ฯ บริเวณด้านข้างห้างเซนจูรี่ ค่าบริการรถโดยสาร ประมาณ 200 บาท โดยรถตู้มีให้บริการตั้งเเต่ 05:00-20:00 น. ทุกวัน และอีกแห่งที่สายใต้ ด้านหลังศาลพระพรหม ค่าบริการประมาณ 200 บาท โดยจะให้บริการตั้งแต่ 06:00-20:00 น. ทุกวัน
อุทยานฯ มีบริการบ้านพักจำนวน 15 หลัง เข้าพักได้ไม่เกิน 10 ท่าน แล้วแต่หลัง มีค่าบริการ 1,200 - 3,000 บาท และมีบริการให้เช่าเต้นท์ (พักได้ 2-4 ท่าน) ราคา 120-250 บาทต่อคืน หรือหากนำเต้นท์มาเองจะมีค่าบริการเพียง 30 บาทต่อคนต่อคืนเท่านั้นครับ
ที่พักน่าสนใจหากไม่พักในอุทยานฯ
Kum Nangpaya
ฺBaan Maka Nature Lodge
ขอบคุณแหล่งข้อมูลและรูปภาพจาก : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น